5 สายพันธุ์สุนัขที่มักพบ “โรคข้อสะโพกเสื่อม” บ่อย! รู้เร็ว ป้องกันได้
- สพ.ญ. ศุภลักษณ์ อินทรพจน์
- 23 พ.ย.
- ยาว 2 นาที

"โรคข้อสะโพกเสื่อม" ไม่ใช่เรื่องไกลตัวและไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในสุนัขสูงวัยเท่านั้น แต่เป็นภัยเงียบที่มักแฝงมากับพันธุกรรมโดยเฉพาะในสุนัขพันธุ์ใหญ่ยอดนิยม บทความนี้สัตวแพทย์จะพามาเจาะลึก 5 สายพันธุ์กลุ่มเสี่ยง พร้อมแนะวิธีสังเกตสัญญาณเตือนภัยเงียบ เช่น การเดินปัด หรือลุกนั่งลำบาก รวมถึงเทคนิคการดูแลและการเลือกอาหารเสริมเพื่อชะลอความเสื่อม เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมรับมือได้ทันท่วงที และช่วยให้น้องหมากลับมาวิ่งเล่นได้อย่างมีความสุขอีกครั้งค่ะ
📑 สารบัญ
โรคข้อสะโพกเสื่อมในสุนัขคืออะไร
โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia / Osteoarthritis of the Hip) คือ โรคที่ข้อสะโพกของสุนัขเกิดการพัฒนาอย่างผิดปกติ ส่งผลต่อบริเวณข้อต่อสะโพกมีรูปร่างผิดปกติจากเดิม จน“ลูกสะโพก” และ “เบ้าสะโพก” ไม่พอดีกันทำให้เกิดแรงเสียดสีต่อเนื้อเยื่อในข้อ จนค่อย ๆ เสื่อมลงเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อสุนัขเกิดภาวะดังกล่าวจึงจะทำให้เกิดการอักเสบ ปวด และเคลื่อนไหวลำบากตามมา
ทำไมพันธุ์ใหญ่ถึงมีความเสี่ยงมากกว่า
สุนัขพันธุ์ใหญ่หรือพันธุ์กลาง เช่น โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ หรือร็อตไวเลอร์ โดยปกติแล้วมักจะมีน้ำหนักตัวมากและมักมียีนที่เกี่ยวข้องกับ “ข้อสะโพกตื้น” หรือ “โครงสร้างสะโพกผิดรูปตั้งแต่กำเนิด” ยิ่งถ้าน้องสุนัขมีการเจริญเติบโตเร็วในช่วงวัยรุ่น (อายุ 4–10 เดือน) หากได้รับอาหารหรือแร่ธาตุไม่สมดุล ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากขึ้น
5 สายพันธุ์สุนัขที่มักพบโรคข้อสะโพกเสื่อมบ่อย
แม้ว่าสุนัขทุกสายพันธุ์สามารถเป็นโรคนี้ได้ แต่ 5 สายพันธุ์ต่อไปนี้ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุด ที่สัตวแพทย์มักพบในคลินิกบ่อยที่สุด
ลำดับ | สายพันธุ์ | ลักษณะเสี่ยง |
1 | โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) | น้ำหนักมาก โครงสร้างสะโพกตื้นโดยกำเนิด |
2 | ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) | มีแนวโน้มอ้วนง่าย น้ำหนักตัวเยอะเพิ่มแรงกดต่อข้อต่อให้เสื่อมได้ง่าย
|
3 | เยอรมัน เชฟเฟิร์ด (German Shepherd) | โครงสร้างบริเวณลำตัวมีลักษณะหลังลาด ทำให้แรงตกไปที่สะโพกมาก
|
4 | ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
| โดยธรรมชาติมักเป็นสุนัขที่เคลื่อนไหวร่างกายเยอะ หากออกกำลังหนัก กระดูกข้อต่ออาจเกิดการสึกหรอได้ง่าย
|
5 | ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
| เป็นสายพันธุ์ที่กล้ามเนื้อแน่น และน้ำหนักตัวมาก ทำให้เสี่ยงข้อเสื่อมเร็ว
|
อาการของโรคข้อสะโพกเสื่อมที่ควรสังเกต
อาการของโรคข้อสะโพกเสื่อมจะแตกต่างกันตามระดับความรุนแรง บางตัวอาจเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ยังเล็ก (มีปัญหาตั้งแต่กำเนิด) หรือในบางตัวจะเริ่มแสดงอาการเมื่ออายุมากขึ้น
อาการที่พบบ่อยได้แก่
-เดินผิดปกติ เดินโยกเยก หรือ “วิ่งกระต่ายขาคู่”
-ลุกนั่งช้า ไม่อยากเดินหรือวิ่งระยะไกล
-มีเสียงร้องเบา ๆ ตอนลุกหรือนั่ง
-ขาหลังดูเล็กลง เพราะไม่ค่อยใช้งาน (กล้ามเนื้อลีบ)
-ไม่ยอมกระโดดขึ้น-ลงรถหรือโซฟาเหมือนปกติ
หากพบอาการเหล่านี้บ่อยครั้ง หรือเป็นๆหายๆ ควรรีบพาน้องๆไปตรวจเอกซเรย์ข้อสะโพกโดยสัตวแพทย์
วิธีรักษาและวินิจฉัย
การรักษาข้อสะโพกเสื่อมในสุนัขมี 2 แนวทางหลัก คือ
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เหมาะกับอาการไม่รุนแรงหรือสุนัขสูงวัยที่มีความเสี่ยงในการวางยา จะแนะนำให้รักษาแบบประคับประคองด้วยการจัดการน้ำหนัก เช่น ใช้อาหารสูตรควบคุมน้ำหนัก , การออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อลดน้ำหนัก (เช่น ว่ายน้ำ, เดินเบาๆ), กายภาพบำบัด, การใช้ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบและอาหารเสริมบำรุงข้อ
การรักษาแบบผ่าตัด เหมาะกับสุนัขที่อายุน้อยและอาการรุนแรง การผ่าตัดในปัจจุบันทำได้หลายวิธี ขึ้นกับภาวะของโรค ความเหมาะสมในน้องๆแต่ละตัวซึ่งต้องให้คุณหมอผ่าตัดประเมินอีกทีค่ะ
ปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดโรคข้อสะโพกเสื่อม
นอกจากพันธุกรรมแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่สามารถทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ เช่น
น้ำหนักเกิน (Obesity)
ออกกำลังกายหนักเกินไปในช่วงโตเร็ว
พื้นที่อยู่อาศัยลื่น เช่น กระเบื้องหรือพื้นไม้
อาหารที่มีแร่ธาตุไม่สมดุล เช่น แคลเซียมเกิน
การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุในวัยเด็ก
วิตามินและอาหารเสริมที่ช่วยดูแลข้อต่อ
แม้โรคข้อสะโพกเสื่อมจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถ “ชะลอการเสื่อมและบรรเทาอาการปวด” ของน้องๆได้ด้วยอาหารเสริมและสารบำรุงข้อต่อที่เหมาะสมวิตามินและอาหารเสริมที่สามารถช่วยดูแลเกี่ยวกับข้อต่อและสะโพกเสื่อมได้ มีดังนี้ค่ะ
สารอาหาร | ประโยชน์ |
Glucosamine | ช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อน |
Chondroitin Sulfate | เป็นส่วนประกอบของน้ำไขข้อ ช่วยชะลอการสึกหรอของข้อต่อ และลดอาการปวดข้อ |
MSM (Methylsulfonylmethane)
| ลดการอักเสบของข้อต่อและกล้ามเนื้อ |
Omega-3 Fatty Acids (น้ำมันปลา)
| ลดอาการอักเสบและช่วยให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น |
💡 อาหารเสริมกลุ่มนี้ เช่น Antinol, Yumove, Nutraquin, หรือ SC-II
มีการใช้ในวงการสัตวแพทย์อย่างแพร่หลายและปลอดภัยหากใช้ตามคำแนะนำของหมอค่ะ
การดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดโรคข้อสะโพกเสื่อม
ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดแรงกดที่ลงบนข้อต่อ
ให้ออกกำลังกายพอเหมาะ เช่น ว่ายน้ำ หรือเดินบนพื้นไม่ลื่น
หลีกเลี่ยงพื้นแข็งหรือพื้นกระเบื้องลื่น อาจใช้พรมกันลื่นช่วยลดแรงกระแทก
ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะน้องสุนัขพันธุ์ใหญ่ควรเอกซเรย์สะโพกทุก 12 เดือน
ให้อาหารสูตรข้อต่อ เช่น Royal Canin Mobility, Hill’s j/d หรือ Purina JM
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับโรคข้อสะโพกเสื่อมในสุนัข
สุนัขพันธุ์เล็กมีโอกาสเป็นโรคนี้ไหม?
ตอบ: มี แต่โอกาสน้อยกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่มาก เนื่องจากน้ำหนักตัวน้อยกว่า และแรงกดทับที่ข้อสะโพกน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีพันธุกรรมหรือได้รับบาดเจ็บที่ข้อสะโพก ก็มีโอกาสเป็นได้เช่นกัน
ควรตรวจเอกซเรย์ข้อสะโพกตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
ตอบ: แนะนำให้ตรวจครั้งแรกเมื่ออายุ 1-2 ปี โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง หากไม่พบปัญหา ควรตรวจซ้ำทุก 12 เดือน หรือเมื่อพบอาการผิดปกติ
โรคข้อสะโพกเสื่อมรักษาหายได้ไหม?
ตอบ: ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถ "ควบคุมอาการ" และ "ชะลอการเสื่อม" ได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม การควบคุมน้ำหนัก และอาหารเสริมบำรุงข้อ
ควรให้น้องออกกำลังกายอย่างไรถ้าเป็นโรคนี้?
ตอบ: แนะนำกิจกรรมที่ไม่กดทับข้อ เช่น ว่ายน้ำ, เดินเบาๆ บนพื้นราบ หลีกเลี่ยงการกระโดด วิ่งระยะไกล หรือเล่นหนักๆ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หนักเกินไป
ค่าใช้จ่ายในการรักษาประมาณเท่าไหร่?
ตอบ: ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและวิธีการรักษา • การรักษาแบบประคับประคอง: 1,000-3,000 บาท/เดือน (ยา + อาหารเสริม) • การผ่าตัด FHO: 20,000-40,000 บาท • การผ่าตัด THR (เปลี่ยนข้อสะโพกเทียม): 80,000-150,000 บาท
พ่อแม่พันธุ์มีโรคนี้ ลูกจะเป็นแน่นอนไหม?
ตอบ: ไม่แน่นอน แต่มีโอกาสสูงมาก เนื่องจากเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดได้ หากต้องการพันธุ์สุนัข ควรเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีผลตรวจ OFA หรือ PennHIP ที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงในรุ่นลูก
อาหารเสริมบำรุงข้อต้องกินตลอดชีวิตไหม?
ตอบ: ใช่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรให้อาหารเสริมบำรุงข้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสุนัขที่มีความเสี่ยงสูงหรือเริ่มมีอาการแล้ว อาหารเสริมจะช่วยชะลอการเสื่อมและลดการอักเสบได้
สรุป: ดูแลน้องให้เดินคล่อง เคลื่อนไหวได้อย่างมีความสุข
โรคข้อสะโพกเสื่อมเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องอาศัยการดูแลระยะยาว แต่หากตรวจพบเร็วและได้รับการดูแลถูกวิธี น้องๆสุนัขก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างมีความสุข ก่อนจะจากกันไป หมอขอสรุป3ประเด็นสำคัญดังนี้ค่ะ
🐶 สุนัขพันธุ์ใหญ่หรือสุนัขสูงวัยควรตรวจสุขภาพข้อต่อประจำปี เพื่อป้องกันการเสื่อมที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
🐶 การควบคุมน้ำหนักคือ “กุญแจสำคัญ” ที่ช่วยป้องกันโรคข้อเสื่อมในระยะยาว
❤️ “ข้อต่อที่แข็งแรงเริ่มจากการดูแลตั้งแต่วันนี้ เพราะน้องหมาทุกตัวสมควรได้วิ่งเล่นอย่างมีความสุขไปอีกนาน”




ความคิดเห็น