top of page

โรคหัวใจในสุนัข สัญญาณเตือนที่เจ้าของควรรู้ก่อนสายเกินไป

  • รูปภาพนักเขียน: สพ.ญ.จิติมา สมบัติหิรัญวงศ์ (หมอเบลล์)
    สพ.ญ.จิติมา สมบัติหิรัญวงศ์ (หมอเบลล์)
  • 23 พ.ย.
  • ยาว 2 นาที

โรคหัวใจในสุนัข

"โรคหัวใจในสุนัข" ไม่ใช่เรื่องไกลตัวและไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในสุนัขสูงวัยเท่านั้น เจ้าของรู้ไหมคะว่า อาการไอแห้งๆ ตอนกลางคืน หรือการที่น้องหมาเหนื่อยง่ายผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนแรกของภัยเงียบที่คร่าชีวิตน้องได้! บทความนี้สัตวแพทย์จะพาคุณไปเจาะลึกทุกข้อสงสัย:

  • เช็กสัญญาณอันตราย: อาการแบบไหนที่บอกว่าหัวใจน้องกำลังแย่?

  • ความเสี่ยงตามสายพันธุ์: ทำไมสุนัขพันธุ์เล็กเสี่ยง "ลิ้นหัวใจรั่ว" แต่พันธุ์ใหญ่เสี่ยง "กล้ามเนื้อหัวใจ"?

  • การรักษาและดูแล: ยา อาหาร และการปรับวิถีชีวิต เพื่อยืดอายุให้น้องอยู่กับเราไปนานๆ

  • การตรวจวินิจฉัย: เครื่องมือแพทย์แบบไหนที่ช่วยเจาะลึกปัญหาหัวใจได้แม่นยำที่สุด?

เพราะการรู้เร็ว รักษาไว คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้น้องหมาป่วยโรคหัวใจ กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง มาเตรียมความพร้อมเพื่อหัวใจดวงน้อยๆ ของเขากันค่ะ


สารบัญ: คู่มือรู้ทันโรคหัวใจในสุนัข ฉบับเจ้าของควรรู้


  1. โรคหัวใจในสุนัขคืออะไร? และการทำงานของหัวใจที่ผิดปกติ

  2. เจาะลึก 4 ประเภทโรคหัวใจที่พบบ่อย (ลิ้นหัวใจรั่ว/กล้ามเนื้อหัวใจ)

  3. ใครเสี่ยงบ้าง? สาเหตุและ 6 สายพันธุ์กลุ่มเสี่ยงสูง

  4. เช็กด่วน! 7 สัญญาณเตือนภัยที่บอกว่า "หัวใจ" เริ่มมีปัญหา

  5. ระยะความรุนแรงของโรคและการตรวจวินิจฉัยโดยสัตวแพทย์

  6. Echocardiogram: การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่แม่นยำที่สุด

  7. แนวทางการรักษา: ยา การผ่าตัด และการดูแลที่บ้าน

  8. โภชนาการบำบัด: อาหารแบบไหนดีต่อใจน้องหมา?

  9. วิธีป้องกันและคำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  10. สรุป: ดูแลอย่างไรให้น้องหมาโรคหัวใจอายุยืนยาว


โรคหัวใจในสุนัขคืออะไร

โรคหัวใจในสุนัข (Canine Heart Disease) คือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เลือดคั่งในปอดหรืออวัยวะอื่น ๆ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจพัฒนาไปสู่ ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้


หัวใจของสุนัขทำงานอย่างไร

หัวใจของสุนัขแบ่งเป็น 4 ห้อง ได้แก่ ห้องบน – เอเทรียม มี2ห้อง และ ห้องล่าง – เวนตริเคิล มี 2 ห้องเช่นเดียวกัน

 โดยหัวใจจะทําหน้าที่

  • รับเลือดจากส่วนต่างๆของร่างกาย

  • ส่งเลือดไปฟอกที่ปอด

  • ส่งกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง

เมื่อหัวใจมีปัญหา เช่น ลิ้นหัวใจรั่ว หรือกล้ามเนื้อหัวใจหนา การทำงานและการหมุนเวียนเลือดจะผิดปกติไป สามารถทำให้เกิดอาการหอบ เหนื่อย หรือหมดแรงได้

ประเภทของโรคหัวใจในสุนัข

ประเภท

ลักษณะ

พบบ่อยใน

โรคลิ้นหัวใจรั่ว (Mitral Valve Disease)

ลิ้นหัวใจเสื่อม ทำให้เลือดไหลย้อน

สุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิสุ ปอมเมอเรเนียน

โรคกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy)

ผนังหัวใจหนาหรือบางผิดปกติ

พันธุ์ใหญ่ เช่น โดเบอร์แมน ลาบราดอร์

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Disease)

เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม

ลูกสุนัขอายุน้อย

ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia)

หัวใจเต้นช้าหรือเร็วเกินไป

สุนัขสูงอายุ

สาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ

  • กรรมพันธุ์และพันธุ์สุนัข

  • อายุที่มากขึ้น ทำให้ลิ้นหัวใจเสื่อม

  • โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)

  • โภชนาการไม่เหมาะสม

  • ความอ้วนและการออกกำลังกายน้อย

  • โรคเรื้อรัง เช่น ความดันสูง หรือไตวาย


สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง

  • ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)

  • ชิสุ (Shih Tzu)

  • ชิวาวา (Chihuahua)

  • คาวาเลียร์คิงชาลส์สแปเนียล (Cavalier King Charles Spaniel)

  • ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)

  • โดเบอร์แมน (Doberman Pinscher)


สัญญาณเตือนของโรคหัวใจในสุนัข


💡หากเจ้าของน้องคนไหนสังเกตุเห็นอาการเหล่านี้ ตั้งแต่ 2 อาการขึ้นไป ควรรีบพาน้องไปพบสัตวแพทย์ทันทีนะคะ เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาได้แย่างทันท่วงที

  • ไอแห้ง ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะตอนกลางคืน

  • หอบ เหนื่อยง่าย หรือไม่ยอมเดิน

  • ท้องโตจากน้ำคั่ง

  • เหงือกซีด หรือมีสีม่วงคล้ำ

  • หายใจเร็ว แม้ขณะนอนพัก

  • ซึม ไม่ร่าเริง

  • หมดแรง หรือเป็นลมเมื่อออกแรง


อาการโรคหัวใจระยะเริ่มต้นและระยะรุนแรง

ระยะ

ลักษณะอาการ

การดูแล

เริ่มต้น

ไอเล็กน้อย เหนื่อยง่าย

ตรวจหัวใจปีละ 1 ครั้ง

ปานกลาง

หอบกลางคืน หายใจเร็ว

ใช้ยาควบคุมหัวใจและขับปัสสาวะ ภายใต้ดุลพินิจของสัตวแพทย์

รุนแรง

หัวใจโต มีน้ำคั่งในปอด

ต้องได้รับการรักษาใกล้ชิดโดยสัตวแพทย์

การวินิจฉัยโรคหัวใจโดยสัตวแพทย์

  1. ฟังเสียงหัวใจผิดปกติด้วยเครื่อง Stethoscope เสียงที่ผิดปกติมีได้หลายระดับ ตั้งแต่เสียงที่เบามากจนแทบจะไม่ได้ยิน จนไปถึงดังมาก

  2. ตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)

  3. ถ่าย เอกซเรย์ทรวงอก (X-ray) ดูขนาดหัวใจและปอด

  4. ตรวจ อัลตราซาวนด์หัวใจ (Echocardiogram)

  5. ตรวจเลือดเพื่อดูค่าการทำงานของอวัยวะ


การตรวจพิเศษที่ใช้วินิจฉัยโรคหัวใจ

การวินิจฉัยหัวใจที่เป็นมาตรฐานสูงสุดคือ การทำ Echocardiography (ECHO) 

ซึ่งเป็นการตรวจหัวใจ ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัลตราซาวนด์) เพื่อสร้าง ภาพหัวใจเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถประเมิน การทำงานและโครงสร้างของหัวใจได้อย่างละเอียด และสามารถวัดแรงบีบตัวของหัวใจ (Ejection Fraction) ได้ชัดเจน


แนวทางการรักษาโรคหัวใจในสุนัข

การรักษาขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค ประกอบด้วย

  • การให้ยา

  • การควบคุมอาหาร

  • การดูแลน้ำหนัก

  • การผ่าตัด (ในบางกรณี)


ยาที่ใช้ควบคุมอาการโรคหัวใจ

ประเภท

หน้าที่

Pimobendan (Vetmedin)

ช่วยให้หัวใจบีบตัวดีขึ้น

Furosemide

ขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย

ACE Inhibitors (Enalapril, Benazepril)

ลดความดันและลดภาระหัวใจ

Digoxin

ควบคุมการเต้นของหัวใจ (ใช้เฉพาะกรณี)

❗ ยาทุกชนิดต้องอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์เท่านั้น


การดูแลสุนัขที่เป็นโรคหัวใจที่บ้าน

  • จำกัดการออกแรง

  • ให้ยาตามเวลาอย่างเคร่งครัด

  • สังเกตอัตราการหายใจและอาการบวม

  • ให้น้ำสะอาดและอาหารสูตรพิเศษ

  • พาไปตรวจติดตามตามนัดทุก 1–3 เดือน


อาหารและโภชนาการสำหรับสุนัขโรคหัวใจ

ควรเลือกอาหารที่

  • โซเดียมต่ำ

  • มีกรดไขมันโอเมก้า 3

  • มีทอรีน (Taurine) และแอลคาร์นิทีน (L-Carnitine)

  • โปรตีนคุณภาพดี

หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เช่น เนื้อหมัก แฮม ไส้กรอก


การป้องกันไม่ให้สุนัขเป็นโรคหัวใจ

  • ตรวจสุขภาพหัวใจประจำปี โดยเฉพาะสุนัขอายุมากกว่า 6 ปี

  • ป้องกันพยาธิหนอนหัวใจเป็นประจำ

  • ควบคุมน้ำหนัก

  • ให้โภชนาการที่เหมาะสม

  • ออกกำลังกายเบา ๆ สม่ำเสมอ


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q1: โรคหัวใจในสุนัขหายขาดไหม? A: ส่วนใหญ่ไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมอาการให้น้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

Q2: สุนัขพันธุ์เล็กกับพันธุ์ใหญ่ ใครเสี่ยงกว่ากัน? A: แตกต่างกันตามโรคค่ะ พันธุ์เล็กมักเป็น “โรคลิ้นหัวใจเสื่อม” ส่วนพันธุ์ใหญ่เป็น “โรคกล้ามเนื้อหัวใจ”

Q3: โรคหัวใจถ่ายทอดทางพันธุกรรมไหม? A: บางชนิด เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด มีปัจจัยทางพันธุกรรม

Q4: สุนัขเป็นโรคหัวใจสามารถออกกำลังกายได้ไหม? A: ได้ แต่ควรอยู่ในระดับเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ และหลีกเลี่ยงอากาศร้อน เพื่อไม่ให้หัวใจทำงานหนักเกินไป

Q5: โรคหัวใจในสุนัขมีอาการคล้ายโรคอื่นไหม? A: มี เช่น โรคทางเดินหายใจ ดังนั้นต้องตรวจโดยสัตวแพทย์เพื่อแยกโรค

Q6: อายุขัยของสุนัขที่เป็นโรคหัวใจอยู่ได้กี่ปี? A: หากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง สามารถอยู่ได้อีกหลายปีโดยคุณภาพชีวิตที่ดี


สรุป: รู้ทันโรคหัวใจ เพื่อชีวิตที่ยืนยาวของน้องหมา

โรคหัวใจในสุนัขอาจดูน่ากลัว แต่ถ้าเจ้าของรู้เท่าทัน สังเกตอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ และพาไปตรวจอย่างสม่ำเสมอ น้องหมาก็สามารถใช้ชีวิตได้ยืนยาวและมีความสุข

💬 หากมีข้อสงสัยเรื่องสัตว์เลี้ยง การใช้ยา หรือสั่งซื้อสินค้า สามารถปรึกษา @petmed ได้เลยค่ะ เรามีทีมสัตวแพทย์คอยให้คำแนะนำ พร้อมจัดส่งสินค้าทั่วประเทศไทย


ความคิดเห็น


bottom of page