เชื้อราแมว ทำอย่างไรดี และการรักษาให้ปลอดภัยสำหรับน้องแมว
- petmed pet
- 16 ม.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 20 ต.ค. 2567

สารบัญ: การรักษาและป้องกันเชื้อราแมว
เชื้อราแมวเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในแมว มันสามารถทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว เช่น อาการคัน ขนร่วง และผิวหนังลอก นอกจากนั้นยังสามารถแพร่เชื้อสู่คนได้เช่นกัน การรักษาและการป้องกันเชื้อราแมวอย่างถูกวิธีจะช่วยให้น้องแมวฟื้นตัวได้เร็วและป้องกันการแพร่กระจายของโรคสู่สมาชิกในครอบครัวได้
เชื้อราแมวคืออะไร?
เชื้อราแมวเกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Microsporum canis ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีการติดต่อได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับแมวที่ติดเชื้อหรือสิ่งของที่ติดเชื้อ เช่น ผ้าปูที่นอน แปรงขน หรือของเล่น เชื้อราชนิดนี้ยังสามารถแพร่ไปยังสัตว์อื่น ๆ และมนุษย์ได้ จึงถือว่าเป็นโรคที่ควรได้รับการดูแลอย่างจริงจัง
สาเหตุการเกิดเชื้อราในแมว
เชื้อราแมวมักเกิดขึ้นเมื่อแมวมีสุขภาพอ่อนแอ หรือในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เชื้อรา Microsporum canis แพร่กระจายได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง การไม่ทำความสะอาดที่นอนหรือของเล่นของแมวเป็นประจำก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชื้อราสะสมและแพร่ระบาด
เชื้อรา Microsporum canis เป็นเชื้อราชนิดหลักที่ทำให้เกิดปัญหาเชื้อราในแมว
ปัจจัยเสี่ยง แมวที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ, แมวที่ไม่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างเพียงพอ, หรือแมวที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและไม่สะอาด
การแพร่กระจาย เชื้อราสามารถติดต่อกันได้โดยการสัมผัสกับแมวที่ติดเชื้อ หรือสิ่งของที่มีเชื้อราเกาะอยู่ เช่น เตียงแมว ของเล่นแมว
อาการของแมวที่ติดเชื้อรา
แมวที่ติดเชื้อราอาจแสดงอาการที่หลากหลาย อาการที่พบได้บ่อยคือ:
ผิวหนังแห้งและลอกเป็นขุย: บริเวณที่ติดเชื้อมักจะลอกเป็นขุยสีขาวหรือสีเหลือง
ขนร่วง: ในจุดที่เชื้อราเติบโต ขนของแมวมักจะร่วงออกไปเป็นหย่อม ๆ
ตุ่มหนอง: หากมีการติดเชื้อเพิ่มเติมหรืออาการรุนแรง อาจเกิดตุ่มหนองในบริเวณที่ติดเชื้อ
อาการคัน: แมวที่ติดเชื้อรามักจะมีอาการคันรุนแรง ทำให้แมวเกาหรือเลียบริเวณที่ติดเชื้อบ่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลง
ผิวหนังแดงหรือบวม: ในบางกรณี ผิวหนังอาจเกิดการอักเสบ ทำให้เห็นรอยแดงหรือบวม
การวินิจฉัยเชื้อราแมว
สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยเชื้อราแมวได้โดยใช้เครื่องมือเฉพาะ เช่น ไมโครสโคปที่ใช้ตรวจดูเชื้อรา หรือการทดสอบตัวอย่างผิวหนัง แม้จะมีวิธีการตรวจด้วยตนเองที่บ้าน เช่น การใช้แสง UV (Wood’s lamp) แต่ควรได้รับการยืนยันจากสัตวแพทย์เพื่อความถูกต้อง
วิธีรักษาเชื้อราแมว
การรักษาเชื้อราแมวสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสุขภาพของแมว โดยวิธีรักษาเชื้อราแมวที่พบได้บ่อย ได้แก่ การใช้ยาทาฆ่าเชื้อรา ยาทาฆ่าเชื้อราเป็นวิธีรักษาเชื้อราแมวที่พบได้บ่อยที่สุด ยาทาฆ่าเชื้อราจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ทาให้บริเวณที่ติดเชื้อเป็นประจำทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์
การใช้ยากินฆ่าเชื้อรา ยาแบบกินเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาเชื้อราแมวในรายที่มีอาการรุนแรงหรือรักษาด้วยยาทาแล้วไม่หาย ยากินฆ่าเชื้อราจะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อราจากภายในร่างกาย แต่ในกลุ่มยากินนี้อาจจะต้องให้สัตวแพทย์เป็นคนดูแลในการให้เท่านั้น เพราะตัวยากินมีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะมาก
การใช้แชมพูยา การอาบน้ำโดยใช้แชมพูยาเป็นวิธีรักษาเชื้อราแมวที่ได้ผลดี อีก 1 วิธีโดย แชมพูยาเหมาะกับการรักษาเชื้อราที่มีการกระจายไปรอบ ๆ ตัว โดยการใช้แชมพูยาต้องมีการหมักแชมพูทิ้งไว้บนตัวน้อง ๆ เพื่อให้ยาได้ออกฤทธิ์
การป้องกันเชื้อราแมว
การป้องกันเชื้อราแมวสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
ดูแลสุขภาพของแมวให้แข็งแรง
แยกแมวป่วยจากแมวสุขภาพดี
ทำความสะอาดสิ่งของที่แมวสัมผัสเป็นประจำ
ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสกับแมวหรือสิ่งของที่แมวสัมผัส
ข้อควรระวัง
หากพบว่าแมวมีความเสี่ยงติดเชื้อราแมว ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง
หากพบว่าคนในบ้านมีอาการคัน ผิวหนังแห้ง ลอกเป็นขุย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อรา
ห้ามใช้ยารักษาเชื้อราแมวกับคน




มีประโยชน์มากครับ