top of page

สัญญาณเตือนโรคไตในแมว รู้ก่อน ป้องกันได้ ช่วยให้น้องอยู่กับเรานานขึ้น

  • รูปภาพนักเขียน: สพ.ญ.จิติมา สมบัติหิรัญวงศ์ (หมอเบลล์)
    สพ.ญ.จิติมา สมบัติหิรัญวงศ์ (หมอเบลล์)
  • 23 พ.ย.
  • ยาว 2 นาที
สัตวแพทย์กำลังตรวจแมว

โรคไตในแมวไม่ใช่เรื่องไกลตัว โดยเฉพาะในแมวที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่พบได้บ่อยที่สุด แต่ข่าวร้ายคือ... "ไตแมว หากพังแล้ว ไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนเดิมได้ 100%"

บทความนี้สัตวแพทย์จึงอยากชวนเจ้าของทุกท่านมาเป็น "นักสังเกต" เพื่อจับสัญญาณเตือนภัยเงียบก่อนจะสายเกินไป:

  • ทำไมแมวถึงเป็นโรคไตง่ายกว่าสัตว์อื่น? ไขคำตอบจากพันธุกรรมและพฤติกรรม "กินน้ำน้อย"

  • ค่าเลือด SDMA vs Creatinine: รู้จักค่าไตตัวใหม่ที่ช่วยตรวจพบโรคได้เร็วกว่าเดิมถึง 25%

  • โภชนาการบำบัด: อาหารและน้ำแบบไหนที่ช่วยยืดอายุไตให้น้องอยู่กับเราได้นานขึ้น

  • สัญญาณอันตราย: อาการแบบไหนที่บอกว่า "ต้องพาไปหาหมอเดี๋ยวนี้!"

เพราะการรู้เร็วและเริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้ คือของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณจะมอบให้น้องแมวได้ค่ะ


สารบัญ: คู่มือดูแลแมวโรคไต รู้ทัน ป้องกัน ยืดอายุขัย


  1. โรคไตในแมวคืออะไร? ทำไมถึงเป็นภัยเงียบที่รักษายาก

  2. ไขข้อข้องใจ: ทำไมแมวถึงเสี่ยงเป็นโรคไตมากกว่าสัตว์อื่น?

  3. หน้าที่สำคัญของ "ไต" และ 2 ประเภทของโรคไตที่พบบ่อย

  4. เช็กด่วน! 5 สัญญาณเตือนและอาการเริ่มต้นที่เจ้าของมักมองข้าม

  5. ใครเสี่ยงบ้าง? กลุ่มเสี่ยงและสาเหตุหลักของโรคไต

  6. เจาะลึกการตรวจวินิจฉัย: ค่าเลือดและปัสสาวะบอกอะไรเราได้บ้าง?

  7. ตารางค่าไตที่ควรรู้: BUN, Creatinine และ SDMA

  8. แนวทางการรักษาและการดูแลแมวป่วย (การให้น้ำเกลือ/ปรับอาหาร)

  9. How-to: ป้องกันโรคไตด้วยการกระตุ้นให้แมวกินน้ำ

  10. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับโรคไตในแมว

  11. สรุป: ดูแลอย่างไรให้น้องแมวโรคไตอยู่กับเราไปนานๆ


โรคไตในแมวคืออะไร

โรคไตเรื้อรังในแมว (Feline Chronic Kidney Disease – CKD) คือ ภาวะที่ ไตเสื่อมการทำงาน ทำให้ไม่สามารถกรองของเสียออกจากเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันเป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยมาก โดยเฉพาะในแมวสูงอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป

โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดหรือฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติได้ เนื่องจากการทำงานของไต หากดเสื่อมแล้วก็เสื่อมเลย แต่หากเราตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก็สามารถควบคุมและชะลอความเสื่อมของไตได้


ทำไมโรคไตถึงพบบ่อยในแมว

โดยธรรมชาติของแมวเป็นสัตว์ที่ ดื่มน้ำน้อย เนื่องจากแมววิวัฒนาการมาจากสัตว์ทะเลทราย ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง การดื่มน้ำน้อยจะทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นในการกรองของเสีย และ ทำให้ปัสสาวะเข้มข้น เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะส่งผลให้เกิดการเสื่อมได้เร็วกว่าสัตว์ชนิดอื่น


หน้าที่ของไตในร่างกายแมว

ไตมีหน้าที่สำคัญ 4 ประการ:

  1. กำจัดของเสียออกจากร่างกายผ่านปัสสาวะ

  2. ควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่

  3. ผลิตฮอร์โมนควบคุมความดันและสร้างเม็ดเลือดแดง

  4. รักษาสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย

ดังนั้น เมื่อไตทำงานผิดปกติ หรือ เริ่มมีภาวะเสื่อม ก็จะไปมีผลกระทบต่อระบบร่างกายหลายส่วนของน้องแมวได้ค่ะ


ประเภทของโรคไตในแมว

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

ประเภท

ลักษณะ

ความรุนแรง

ไตวายเฉียบพลัน (Acute Kidney Injury)

เกิดขึ้นรวดเร็วจากการติดเชื้อ ยา หรือสารพิษ

รักษาได้หากพบเร็ว

ไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease)

การเสื่อมของไตสะสมเป็นเวลานาน

พบได้บ่อยในแมวสูงอายุ


สัญญาณเตือนสำคัญที่เจ้าของควรรู้

อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงภาวะโรคและสุขภาพหลายๆอย่างของน้องแมวได้ 


💡 หากบ้านไหนที่สังเกตุว่าน้องแมวมีอาการแบบนี้เพิ่มขึ้น พฤติกรรมผิดปกติไปจากที่เคยเป็น ต่อเนื่องเกิน 1 สัปดาห์ แนะนำให้พาเด็กๆไปตรวจสุขภาพ ตรวจเลือดและปัสสาวะกับสัตวแพทย์กันนะคะ


พฤติกรรมที่พบได้

  • กินน้ำน้อย แต่ปัสสาวะบ่อย

  • น้ำหนักลดอย่างต่อเนื่อง ผอม

  • เบื่ออาหาร อาเจียนบ่อย

  • ขนหยาบ แห้ง ไม่มันวาว

  • มีกลิ่นปากคล้ายแอมโมเนีย

  • ซึม ไม่เล่นเหมือนเดิม

  • หายใจถี่ หรือมีอาการบวมที่หน้า/ขา


อาการเริ่มต้นของโรคไตที่มักถูกมองข้าม

หลายๆบ้านเจ้าของมักเข้าใจว่าเพราะแมว “แก่แล้วเลยกินน้อย เล่นน้อยลง” หรือ “เค้าแค่ขี้เกียจเฉย ๆ” เลยไม่ได้ให้ความสนใจกับอาการเหล่านี้มากนัก แต่จริง ๆ แล้ว นั่นอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคไตเช่นเดียวกันนะคะ เช่น

  • ซึมเล็กน้อย

  • กินน้ำมากขึ้นผิดปกติ

  • ปัสสาวะในกระบะเยอะกว่าปกติ


สาเหตุหลักของโรคไตในแมว

  • อายุที่มากขึ้น

  • พันธุกรรม (เช่น พันธุ์เปอร์เซีย หรือเมนคูน)

  • อาหารที่มีฟอสฟอรัสหรือโซเดียมสูง

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย/ไวรัส

  • ภาวะขาดน้ำเรื้อรัง

  • ยาบางชนิดที่มีผลต่อไต เช่น ยาแก้ปวดของคน


กลุ่มเสี่ยงที่ควรตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ

  • แมวอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป

  • แมวพันธุ์เปอร์เซีย, เบงกอล, เมนคูน

  • แมวที่กินอาหารแห้งเป็นหลัก

  • แมวที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง หรือไทรอยด์เกิน

แนะนำให้ตรวจเลือดปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อเช็กค่าการทำงานของไตตั้งแต่เนิ่น ๆ


วิธีตรวจวินิจฉัยโรคไตในแมว


  1. ตรวจร่างกายโดยสัตวแพทย์ 

ประเมินสุขภาพภายนอก ภาวะแห้งน้ำ ช่องปาก ลักษณะขน

  1. ตรวจเลือด (Blood Test) เพื่อดูค่าโปรตีนในเลือด (BUN), ค่าของเสียในเลือด (Creatinine) หรือ สารบ่งชี้ทางชีวภาพของไต (SDMA) 

ค่าเลือดเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ถึงความผิดปกติของการกรองของไตได้

  1. ตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) เพื่อดูความเข้มข้นของปัสสาวะ หรือมีโปรตีนรั่วมากในปัสสาวะหรือไม่

หากพบว่าปัสสาวะเจือจางมากหรือพบโปรตีนรั่วในปัสสาวะ นั่นหมายถึงการกรองของไตมีปัญหา

  1. ตรวจความดันโลหิต (Blood Pressure)

  2. อัลตราซาวนด์ไต เพื่อดูโครงสร้างและขนาด


ค่าการตรวจเลือดและปัสสาวะที่ควรรู้

ค่าที่ตรวจ

ช่วงปกติ

หากเกินอาจบ่งบอกว่า

BUN

15–34 mg/dL

ไตเริ่มกรองของเสียได้ลดลง

Creatinine

0.8–1.8 mg/dL

โรคไตเรื้อรังระยะต้นถึงกลาง เริ่มสูงขึ้นเมื่อการทำงานของไตลดลงมากกว่า 75%

SDMA

<14 µg/dL

เริ่มเกิดการเสื่อมของไต เริ่มสูงขึ้นเมื่อการทำงานของไตลดลงมากกว่า 25%

Specific Gravity (ปัสสาวะ)

>1.035

หากต่ำกว่า แสดงถึงไตทำงานลดลง


แนวทางการรักษาโรคไตในแมว

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น โรคไตไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ฟากเราตรวจพบเร็ว เราสามารถ ชะลอการเสื่อมและควบคุมอาการ ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • ให้ น้ำเกลือใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fluid)

เพิ่มน้ำภายในร่างกาย ทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนักในการกำจัดของเสีย

  • หากพบปัญหาความดันสูงร่วมกับภาวะไตเสื่อม สัตวแพทย์อาจให้ยา ควบคุมความดัน เพื่อไม่ให้ความดันสูงไปทำลายอวัยวะอื่นๆ

  • ปรับอาหารเป็นสูตรสำหรับแมวโรคไต ซึ่งเป็นอาหารที่จำกัดปริมาณโปรตีน ไตจะไก้ไม่ทำงานหนักเกินไป

  • ตรวจและติดตามผลเลือดทุก 2–3 เดือน เพื่อดูแนวโน้มและพยากรณ์โรค


อาหารและการดูแลแมวที่ป่วยเป็นโรคไต

อาหารที่เหมาะสม:

  • โปรตีนต่ำแต่คุณภาพสูง

  • ฟอสฟอรัสต่ำ

  • โซเดียมต่ำ

  • มีโอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบของไต

แนะนำให้ใช้ อาหารสูตร Renal หรือ Kidney Care จากแบรนด์ที่สัตวแพทย์แนะนำ เช่น Royal Canin, Hill’s, Purina



การป้องกันไม่ให้แมวเป็นโรคไต

  • กระตุ้นให้แมวดื่มน้ำมากขึ้น 

แมวแต่ละตัวมีความชอบในการกินน้ำต่างกัน เช่น บางตัวชอบน้ำที่เคลื่อนไหว ให้ใช้ น้ำพุแมว, ชอบน้ำเย็น, ชอบชามที่ปากกว้าง ก้มแล้วหนวดไม่ชน เป็นต้น

  • ให้อาหารเปียกหรือเสริมเจลน้ำ

  • หลีกเลี่ยงอาหารคนและอาหารที่มีรสเค็ม

  • ตรวจสุขภาพประจำปี

  • สังเกตพฤติกรรมการกินและขับถ่ายเป็นประจำ


สัญญาณอันตรายที่ต้องพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

หากน้องแมวที่เริ่มมีอาการเหล่านี้ ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีนะคะ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้หากสายเกินไป

  • อาเจียนติดต่อกันหลายวัน

  • ซึม ไม่กินอาหาร

  • ปัสสาวะน้อย หรือไม่มีเลย

  • หายใจถี่ หรือมีอาการบวม

  • มีกลิ่นปากแรงคล้ายกลิ่นเหล็ก


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q1: โรคไตในแมวรักษาหายไหม? A: ไม่หายขาดค่ะ หากเป็นแล้วคือเป็นเลย แต่สามารถควบคุมอาการและชะลอความเสื่อมได้ หากตรวจพบเร็ว

Q2: อาการโรคไตเริ่มต้นตรวจเจอได้ไหม? 

A: ตรวจเจอได้จากค่าความเข้มข้นของปัสสาวะและค่า SDMA ที่เริ่มสูงขึ้นเมื่อการทำงานของไตลดลงมากกว่า 25% เร็วกว่า Creatinine

Q3: ต้องให้น้ำเกลือทุกวันไหม? 

A: ขึ้นอยู่กับระยะของโรค สภาพร่างกาย ณ ปัจจุบัน และดุลยพินิจของสัตวแพทย์ผู้ทำการรักษา

Q4: แมวอายุน้อยสามารถเป็นโรคไตได้ไหม? 

A: ได้ค่ะ โดยเฉพาะแมวที่ดื่มน้ำน้อยหรือมีพันธุกรรมเสี่ยง

Q5: โรคไตติดต่อไหม? 

A: ไม่ติดต่อค่ะ เป็นโรคภายในจากการเสื่อมหรือโภชนาการไม่เหมาะสม แต่พบว่าถ้าแมวที่เลี้ยงหรือมาจากสิ่งแวดล้อมแบบเดียวกัน เช่น เป็นสายเลือดเดียวกัน ทานอาหารแบบเดียวกันมาโดยตลอด อาจมีแนวโน้มทำให้ไตเสื่อมจากการเลี้ยงดูแบบเดียวกันได้

Q6: มีอาหารเสริมช่วยได้ไหม? 

A: มีบางชนิด เช่น โอเมก้า 3 และโปรไบโอติก ช่วยลดการอักเสบและชะลอการเสื่อมของไตได้ แต่อาหารเสริมเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยมากเท่ากับการดูแลให้ครบรอบด้านทั้งน้ำและอาหารหลักค่ะ


สรุป: รู้เร็ว ดูแลไว แมวสบายไตและสบายใจเจ้าของ

โรคไตในแมวอาจดูน่ากลัว แต่หากเจ้าของสังเกตสัญญาณเตือนตั้งแต่ระยะต้นและเข้ารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ  ก็สามารถยืดอายุและคุณภาพชีวิตของน้องได้อย่างมีความสุขนะคะ

 “การดูแลแมวให้ดื่มน้ำมากขึ้นวันนี้ อาจช่วยยืดชีวิตเขาได้อีกหลายปี”

💬 หากมีข้อสงสัยเรื่องสัตว์เลี้ยง การใช้ยา หรือสั่งซื้อสินค้า สามารถปรึกษา @petmed ได้เลยค่ะ เรามีทีมสัตวแพทย์คอยให้คำแนะนำ พร้อมจัดส่งสินค้าทั่วประเทศไทย


ความคิดเห็น


bottom of page